World Heart Day

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาเลือกกินมากขึ้น ใส่ใจสุขภาพ ทั้งกินคีโต กินออร์แกนิค  หรือกินคลีน แต่จะให้กินอาหารสุขภาพตลอดไปก็คงเหนื่อยแย่ 

เรามาเริ่มจากกินอาหารมื้อปกติที่ชอบกิน แต่เปลี่ยนเครื่องปรุงกันดีกว่า เริ่มจากสเตปง่ายๆ ด้วยการควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหาร จะช่วยปกป้องหัวใจได้ดีทีเดียว เพราะอาหารที่มีโซเดียมสูง รสชาติเค็ม ก็เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคตามมาได้มากมายรวมถึงโรคหัวใจ เพราะร่างกายคนเรามีความต้องการโซเดียมเพียงประมาณ 2,400 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น

อาหารที่มาจากธรรมชาติไม่ผ่านการแปรรูปเป็นตัวอย่างอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทาง โภชนาการและสารที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ  

การกินถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ และถั่ววอลนัท ถั่วพิซทาซิโอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์  จะช่วยยับยั้งและส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ เพราะถั่วจะเต็มไปด้วยโอเมก้า3 และไขมันดี(ชนิดไม่อิ่มตัว) 

เราแนะนำให้ทุกคนบริโภคถั่วประมาณ 1 กำมือต่อวัน อาจจะเน้นกินเป็นถั่วอบหรือ ถั่วต้ม เพื่อคงสารอาหารที่มีประโยชน์ไว้ ไม่แนะนำให้กินถั่วทอด เพราะจะเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำมันเข้าไปในร่างกายหรือถ้าอยากกินถั่วทอดเพื่อเพิ่มรสชาติให้กินง่ายขึ้น ลองทำถั่วทอดในหม้อทอดไร้น้ำมันก็ได้ลดน้ำมันได้มากทีเดียว

การทานอาหารประเภทของทอด ของมัน ผัดต่างๆ เช่นไข่เจียว ผัดสปาเก๊ตตี้ หรือแกงกะทิต่างๆ อาหารที่แสนจะอร่อยแต่เต็มไปด้วยไขมันร้าย และน้ำมัน ซึ่งเป็นตัวการตัวฉกาจที่ทำให้เกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดนั่นเอง  

หันมาปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว ลดน้ำมัน เพิ่มคุณค่าทางอาหารกันดีกว่า 

ซึ่งในน้ำมันมะกอกมีปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ และมีวิตามินอี วิตามินเค และโอเมก้า รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระด้วย ใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหารจะช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดชนิด LDL  ซึ่ง LDL เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากน้ำมันมะกอกที่ใช้ปรุงอาหารยังมีน้ำมันมะพร้าวที่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำเมนูทอดอีกด้วย และน้ำมันมะพร้าวยังเป็นน้ำมันพืชที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีส่วนช่วยลำเลียงคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์จากหลอดเลือดแดงและเนื้อเยื่อไปยังตับ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจอีกด้วย

น้ำมันมะพร้าวนอกจากไว้ทำเมนูทอดแล้วยังมีแบบน้ำมันสกัดเย็นที่สามารถทานได้เลยไม่ต้องปรุงต่อโดยปริมาณที่เหมาะสมในการทานคือ 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือ 1 ช้อนโต๊ะต่อมื้ออาหารเท่านั้น

หลายๆ คนชอบทานขนมหวานมาก โดยเฉพาะช็อกโกแลต ซึ่งเรามักจะได้ยินกันว่าเป็นอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ทำลายสุขภาพ แต่จะให้เลิกกินเพื่อสุขภาพมันก็ยากซะเหลือเกิน 

ตามหลักแล้ว ช็อกโกแลตไม่ใช่อาหารที่ทำร้ายสุขภาพ แถมยังกลับมีส่วนช่วยปกป้องดูแลหัวใจของเราอีกด้วย  แต่!จะต้องเป็นดาร์คช็อกโกแลตเท่านั้น ถึงจะได้รับคุณค่าที่เพียงพอ เพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น 

สำหรับใครที่ชอบกินช็อกโกแลต ไม่ว่าจะเป็นนม เค้ก หรือไอศกรีม ลองเปลี่ยนมาเป็นเมนูดาร์กช็อกโกแลตกัน โดยต้องเลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้ 60-70% ขึ้นไป แนะนำให้กินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดด้วยโรคหัวใจได้

ตั้งแต่เด็กเราจะรู้กันดีว่าผักใบเขียวนั้น เต็มไปด้วยสารพัดประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงวิตามินเค ที่ช่วยปกป้องหลอดเลือดแดงของคุณด้วย 

ผักใบเขียวเหล่านี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันอาการเสื่อมของเส้นเลือดหัวใจ และช่วยลดอาการหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย

ผักใบเขียวที่เราคุ้นรสชาติกันดีก็จะเป็นจำพวก ผักบุ้ง ตำลึง ผักโขม คะน้า ใบบัวบก ฯลฯ การทานผักเพิ่มขึ้นสามารถลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจลงได้ถึง 16% เชียวนะ และควรเลือกผักที่ออร์แกนิคปลอดสารพิษ และควรกินผักให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น 

เครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลายๆคน นอกจากดื่มเพื่อความสดชื่นยังเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ทั้งมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด และยังมีสรรพคุณช่วยยับยั้งโรคหลอดเลือดหัวใจได้ดีมาก

แต่การดื่มชาเขียวให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การดื่มชาเขียวแบบเพียวๆ ไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยน้ำตาลหรือนมทุกชนิดและไม่ควรดื่มชาขณะรับประทานอาหาร เพราะแร่ธาตุจากผักใบเขียวหรือจากผลไม้จะถูกสารสำคัญจากชาเขียวดักจับไว้ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย องค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำว่าควรดื่มชาในระหว่างมื้ออาหารจะได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าเป็นช่วงมื้อเช้า จะแนะนำให้กินหลังอาหารจะดีกว่า เพราะดื่มชาก่อนอาหารอาจจะทำให้เป็นกรดในกระเพาะอาหารได้

ในปัจจุบันนี้ หลายคนนอกจากจะทานอาหารสุขภาพมากขึ้นแล้ว บางคนส่วนใหญ่ยังทานอาหารเสริม ช่วยบำรุงสุขภาพจากภายในอีกด้วย อย่างที่เราทราบกันว่าในหนึ่งวันเราอาจจะไม่ได้รับสารอาหารและประโยชน์จากอาหารได้อย่างเต็มที่ เราเลยจะต้องมีการทานอาหารเสริมเข้ามาเป็นตัวช่วยเติมเต็มสารอาหารที่หายไปเหล่านั้น อาหารเสริมเพื่อบำรุงและ

ป้องกันโรคหัวใจ ก็มีหลากหลายชนิด ทั้งที่มาจากการสกัดจากสารอาหารต่างๆ วิตามิน หรือจะเป็นจำพวกน้ำมันปลา ที่ช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือดได้เช่นกัน อาหารเสริมจำพวกวิตามินก็เป็นตัวที่หลายๆ

คนแนะนำเช่นกันไม่ว่าจะเป็น

วิตามินอี ที่ให้พลังงานในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้ามเนื้อหัวใจ

วิตามินซีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการควบคุม
ระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งสามารถเพิ่มความต้านทานของโรคหัวใจได้

หรือเลซิติน จะช่วยให้การขนส่งคอเลสเตอรอลในเลือดสะดวกมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงของคอเลสเตอรอลที่จะไปเกาะตามผนังหลอดเลือดได้ และอีกชนิดนึงก็คือ โคเอนไซม์ คิวเท็น เป็นแหล่งพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย และช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องและชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ รวมถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด