3. Power nap to Boost Energy งีบสั้นๆ ชาร์จพลังได้มากกว่า
ข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการ “นอน” เพราะการที่เรานอนไม่พอจะส่งผลเสียกับทุกอย่างในร่างกาย ซึ่งบางคนอาจมีปัญหาในการนอนให้เพียงพอ หลับยาก หรือหลับไม่ลึก เพราะฉะนั้นการนอนงีบหลับตอนกลางวัน หรือ Power Nap จะช่วยเราได้ดีมาก
Power Nap คือการนอนหลับช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน การนอนระยะสั้น ควรตั้งเวลานอนประมาณ 15-20 นาที จะช่วยให้คุณสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อ แถมมีสมาธิมากขึ้น ลองใช้เวลาช่วงพักเที่ยง หรือช่วงปลอดประชุม ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้พอดี ไม่ควรงีบนานกว่านั้นเพราะถ้าคุณหลับไปมากกว่า 20 นาที จะเข้าสู่ช่วงการหลับลึกที่อาจส่งผลตรงกันข้าม ทำให้คุณรู้สึกเพลียได้ ไม่สดชื่นได้ และไม่ควรนอนหลัง 15.00 น. เพราะจะส่งผลกระทบทำให้ไม่ง่วงในตอนกลางคืน จนนอนดึกเกินไป ทำให้นอนไม่พอ
สำหรับการนอนในช่วงเวลากลางคืนบางคนอาจคิดว่าต้องนอนให้ได้ 7 – 9 ชม. แล้วจะดี แต่ความจริงแล้วถ้าในบางครั้งเราไม่มีเวลามากขนาดนั้นก็สามารถใช้การนอนแบบให้ครบรอบการนอน (Sleep Cycle) 1.30 ชม. ประมาณ 4 – 5 รอบต่อคืน แบ่งเป็น stage ง่ายๆ คือ
stage 1 - การหลับตื้น (ระยะแรกของการหลับ)
stage 2 - หลับลึก (ช่วงที่หลับสนิทที่สุด) ไม่ควรตื่นในช่วงเวลานี้เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่ร่างกายตื่นได้ยากที่สุด และเมื่อตื่นนอนจะรู้สึกไม่สดชื่น อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
stage 3 - หลับฝัน (ช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่)
การนอนอย่างมีคุณภาพควรนอนให้ครบทั้ง 3 stage นี้ เมื่อตื่นมาร่างกายจะได้รู้สึกสดชื่น
เสริมเทคนิคการช่วยให้นอนมีคุณภาพมากขึ้น
1. งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
2. หลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อหนักก่อนนอน 2 ชม.
3. ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน แต่ควรออกกำลังกายห่างจากเวลานอน 3 ชม.
4. งดเล่นอุปกรณ์ไอทีและเครื่องมือสื่อสารบนเตียงนอน
5. เข้านอน และตื่นนอนให้เป็นเวลา
6. จัดสภาพแวดล้อมในการนอนที่ส่งเสริมต่อการพักผ่อน
เพียงเท่านี้ ก็สามารถช่วยให้การทำงานที่บ้านไม่น่าเบื่อ และยังโปรดักทีฟได้ตลอดเวลาอีกด้วย